ก่อนอื่นควรต้องเริ่มจากศึกษาหาข้อมูล ความเหมือน ความต่างของแต่ละเมือง แต่ละประเทศ เพื่อเลือกจุดหมายปลายทางก่อน ทั้งนี้เพื่อเป็นการจำกัดวงของข้อมูลที่เราต้องค้นคว้า เราอาจใช้หลักสูตรที่เราตั้งใจจะเรียนเป็นตัวตัดสินประเทศก็ได้ หรือจะใช้ความชอบส่วนตัวก็ไม่มีใครว่า เมื่อเราได้เมือง ได้ประเทศมาแล้ว ต่อไปก็ไม่ใช่เรื่องยาก เราอาจจะเริ่มหาข้อมูลสภาพแวดล้อม การใช้ชีวิต วัฒนธรรมของเมืองนั้นๆ โดยผ่านทางสื่อออนไลน์ และออฟไลน์ หรือเพื่อความแน่ใจ เลือกปรึกษากับตัวแทน หรือศูนย์ฯศึกษาต่อต่างประเทศที่เชื่อถือได้ ก็จะทำให้เรื่องทุกอย่างง่ายขึ้นมากๆ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลหลักสูตรเรียน แนะนำประเทศ สมัครเรียน การยื่นขอวีซ่า จองตั๋วเครื่องบิน ที่พัก การใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศ ข้อมูลทั้งหมดมีพร้อมสรรพแบบที่เดียวจบ ถ้าท่านลังเลใจในข้อมูลที่มีอยู่ว่าถูกต้อง ครบถ้วนหรือไม่ หรืออยากหาจุดเริ่มต้นของประสบการณ์ใหม่ๆจากการไปเรียน และใช้ชีวิตในต่างประเทศลองปรึกษาเราที่ Adwise Education สิค่ะ

กรณีที่ Statement ไม่พอ เราสามารถหาตัวช่วยอื่นได้ เช่น การขอกู้เงินเพื่อการศึกษาจากสถาบันการเงินต่างๆ หรือขอทุนการศึกษาก็ได้ นอกจากนั้น เรายังสามารถใช้สินทรัพย์ที่เรามี เช่น บ้าน ที่ดิน รถยนต์ หรือสินทรัพย์อื่นที่สามารถหาเอกสารทางราชการได้ นำไปขาย หรือจำนอง เพื่อนำเงินมาเป็น Statement ได้หลักฐานด้านการเงิน ที่มาของเงิน และหลักฐานอ้างอิงอื่นๆ จะต้องใช้ความระมัดระวังในการจัดเตรียมมาก เลือกปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญ หรือเป็นตัวแทนที่ถูกต้องตามกฎหมาย จะได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดค่ะ

การไปเรียนคนเดียว ถึงแม้ว่ามันจะเหงาบ้าง แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่มีข้อดีนะค่ะ การที่เราไปเรียนคนเดียวนั้น กลับทำให้เรามีโอกาสพัฒนาความสามารถด้านภาษาได้เร็ว และดีกว่าการไปเรียนกับเพื่อน เพราะเวลาเราไปเรียนกับเพื่อนชาติเดียวกัน ก็จะไม่พ้นพูดภาษาไทยออกมาไม่มากก็น้อย แต่ถ้าเราไปเริ่มหาเพื่อนใหม่ในต่างประเทศที่มาจากคนละประเทศ สังคม วัฒนธรรม และภาษา เราก็ต้องปรับเปลี่ยนมาสื่อสารโดยใช้ภาษาสากลไปโดยปริยาย เป็นการบังคับตัวเองอย่างหนึ่ง นอกจากประโยชน์ด้านนี้ ก็มีอีกมากมายค่ะ ส่วนเรื่องการเตรียมตัวนั้น ก็คงจะเริ่มเหมือนข้อข้างต้น คือหาข้อมูลให้พร้อมที่สุด เวลาเดินทางคนเดียวจะได้มีความมั่นใจมากขึ้น ทั้งนี้การได้รับคำปรึกษาจากผู้เคยมีประสบการณ์ไปประเทศนั้นๆมาแล้ว ก็จะยิ่งเป็นการเตรียมความพร้อมที่ดีมากๆ ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์จากการบิน สนามบิน การผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง การเดินทาง การใช้ชีวิต ตลอดจนเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย เช่น ร้านอาหารอร่อย ราคาประหยัด ถ้าเราได้รู้ข้อมูลพวกนี้ก่อนแล้ว การเดินทางคนเดียวก็น่าจะง่ายขึ้นนะค่ะ ไม่หน้ากลัวอย่างที่คิดค่ะ

ก่อนอื่น ต้องมองหาหลักสูตรที่สนใจก่อนเป็นอันดับแรก เพราะแต่ละสถาบัน แต่ละประเทศ ก็จะมีหลักฐานสูตรที่เด่นและมีชื่อเสียงแตกต่างกัน เช่น ถ้าเป็นด้านกฎหมาย นักศึกษาไทย ก็จะเน้นไปเรียนที่ประเทศอังกฤษ หรืออเมริกา เป็นต้น ทั้งนี้ทั้งนั้น นอกจากความต้องการที่จะเรียนสาขานั้นๆยังต้องคำนึงเกณฑ์การรับเข้าเรียน การสมัคร เอกสาร และผลทดสอบอื่นๆอีกด้วย ดังนั้น การตรวจสอบข้อมูล เกณฑ์การสมัครต่างๆจึงเป็นเรื่องสำคัญ และจำเป็นอย่างยิ่งยวด ถ้าคุณอยากรู้ว่าคุณลักษณะ หลักฐานต่างๆที่คุณมีนั้น เพียงพอหรือยัง สามารถตรวจสอบได้จากเวบไซท์ของสถาบันนั้นๆ หรือติดต่อตัวแทนของสถาบันต่างๆ เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม รวมทั้งสมัครเรียนได้ทันที โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บางช่วงเวลา บางสถาบันยังมีโปรโมชั่นพิเศษให้กับตัวแทนมากมาย เช่น การยกเว้นค่าสมัคร การลดค่าสมัคร ทุนการศึกษา ส่วนลดค่าเรียน และอื่นๆ ซึ่งโปรโมชั่นเหล่านี้ ท่านจะไม่ได้รับถ้าติดต่อผ่านสถาบันต่างๆโดยตรง

การติดต่อประสานงาน และใช้บริการตัวแทนของสถาบัน หรือ Agent นั้น มีข้อดีมากมาย ได้แก่ ความสะดวกสบายจากการให้บริการด้วยผู้มีประสบการณ์ และเป็นมืออาชีพ การติดต่อแบบมาที่เดียวจบ โปรโมชั่นพิเศษที่ท่านจะไม่ได้รับถ้าสมัครโดยตรงด้วยตัวท่านเอง การแนะแนวแนวทางการศึกษาแบบไม่มีค่าใช้จ่าย ทั้งหมดนี้ท่านจะได้รับจากการใช้บริการ Agent โดยที่ค่าใช้จ่ายนั้นจะเท่ากับ หรือน้อยกว่า เมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายที่ท่านต้องจ่ายจากการสมัครผ่านสถาบันโดยตรง อีกทั้งยังช่วยให้ท่านประหยัดเวลาได้มากกว่ามากมาย นอกจากนั้น ท่านผู้ปกครองยังสามารถแน่ใจได้มากขึ้นว่า จะมีผู้ดูแลบุตรหลานท่านตลอดระยะเวลาที่บุตรหลานของท่านศึกษาต่อในต่างประเทศอีกด้วย

อย่างน้อยควรเผื่อเวลาไว้ 3 - 5 เดือนล่วงหน้า หรือถ้านานกว่านั้นได้ก็จะเป็นการดี เพราะบางหลักสูตร หรือบางสถาบันต้องใช้ผลภาษาสูงกว่าปกติ ซึ่งอาจจะทำให้ต้องใช้เวลาในการเรียนปรับภาษานานขึ้น (ขึ้นอยู่กับระดับภาษาของแต่ละบุคคล) ดังนั้นการวางแผนล่วงหน้า และปรึกษากับตัวแทนตั้งแต่เนิ่นๆ ย่อมเป็นการดีกว่าแน่นอน ท่านอาจไม่ต้องเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ ส่วนการทำเรื่องขอวีซ่านั้น ขึ้นอยู่กับประเภท และประเทศที่จะขอ ดังนั้น เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมที่เหมาะสม ควรปรึกษาตัวแทนล่วงหน้าอย่างน้อย 3 เดือน

แต่ละประเทศก็จะมีค่าครองชีพที่แตกต่างกัน และยังมีเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนให้ต้องคำนวณอีกด้วย การสืบหาค่าครองชีพของแต่ละประเทศไม่ใช่เรื่องยาก แต่เพื่อข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบันมากที่สุด ควรศึกษาข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้ เช่น เวบไซท์ด้านการศึกษาของประเทศนั้นๆ เวบไซท์ของหน่วยงานรัฐบาลที่ดูแลเรื่องการศึกษาของนักเรียนต่างชาติ เวบไซท์ที่เกี่ยวข้องกับกองตรวจคนเข้าเมือง หรือแม้กระทั่งจากเวบไซท์ของตัวแทนสถาบันต่างๆ เป็นต้น

วีซ่านักเรียนในบางประเทศ สามารถทำงานได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่เป็นแบบมีเงื่อนไข เช่น กำหนดระยะเวลาทำงานต่ออาทิตย์ ทำงานได้ไม่เกิน 20 ชั่วโมง (สำหรับประเทศออสเตรเลีย) เป็นต้น แต่ในหลายประเทศ วีซ่านักเรียนไม่สามารถทำงานได้เลย อาทิ ประเทศสหรัฐอเมริกา หรือในบางประเทศ การทำงานเก็บประสบการณ์หลังเรียนจบ สามารถทำได้ แต่ต้องทำเรื่องขอวีซ่าประเภทอื่นเพื่อที่จะทำงานได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย