top of page

วีซ่าท่องเที่ยวอเมริกา Visitor VISA, U.S.A.

การเตรียมหลักฐานเพื่อยื่นขอวีซ่าท่องเที่ยว (เยี่ยมเยือน) ประเทศสหรัฐอเมริกา

AdWise Education Admin

Updated Info: July 2021

Golden Gate Bridge

อัพเดทการยื่นวีซ่าอเมริกาช่วง COVID-19:

 

ตั้งแต่วันที่ 26 มกราคม 2021เป็นต้นไป ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐฯ (CDC) กำหนดให้ผู้โดยสารทุกท่านที่จะเดินทางเข้าประเทศสหรัฐฯ ทางอากาศต้องแสดงผลรับรองการตรวจเชื้อโควิด-19 ที่มีผลเป็นลบ และได้รับการตรวจภายใน 72 ชั่วโมงก่อนการเดินทาง อ่านเพิ่มเติม

วีซ่าเยี่ยมเยียน B-1/B-2 เป็นวีซ่าสำหรับผู้ที่เดินทางไปสหรัฐอเมริกาชั่วคราวเพื่อวัตถุประสงค์ดังนี้ 

 

B-1 สำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางเพื่อติดต่อกับผู้ร่วมงาน ผู้เข้าประชุมเชิงวิทยาศาสตร์ การศึกษา อาชีพ ติดต่อธุรกิจ การจัดการสินทรัพย์ หรือต่อรองสัญญา

 

B-2 สำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางเพื่อการพักผ่อน การท่องเที่ยว เยี่ยมเยียนเพื่อนฝูงหรือญาติ การรักษาด้านการแพทย์ และการเข้าร่วมงานการกุศล กิจกรรมเพื่อสังคม หรือกิจกรรมด้านการบริการ

 

วีซ่า B-1 และ B-2 มักจะออกร่วมกันเป็นวีซ่าเดียว เป็นวีซ่าชนิด B-1/B-2

คุณสมบัติผู้สมัครวีซ่าชนิด B-1/B-2


ผู้สมัครจะต้องแสดงต่อเจ้าหน้าที่กงสุลว่าไม่มีเจตนาที่จะอยู่อาศัยในสหรัฐอเมริกาอย่างถาวร ข้อมูลที่ผู้สมัครกรอกในใบสมัครวีซ่า DS-160 และเอกสารพิ่มเติมเป็นเพียงปัจจัยหนึ่งเท่านั้นที่เจ้าหน้าที่กงสุลจะนำมาพิจารณาประกอบการสัมภาษณ์ โดยเจ้าหน้าที่กงสุลจะตัดสินใบคำร้องแต่ละกรณีจากปัจจัยด้านอาชีพ สังคม วัฒนธรรม และปัจจัยอื่นๆที่มีอยู่ ทั้งนี้ใบสมัครวีซ่า DS-160 ระบุให้กรอก Social Media Platform ที่ผู้สมัครใช้งานด้วย ซึ่งมีผลต่อการพิจารณาเจตนาของผู้สมัคร สถานการณ์ด้านครอบครัว แผนระยะยาวของผู้สมัคร ตลอดจนสถานการณ์ภายในประเทศที่ผู้สมัครอาศัยอยู่ ซึ่งแต่ละกรณีจะได้รับการพิจารณาเป็นรายบุคคล

เอกสารที่ต้องยื่นในวันสัมภาษณ์

  1. ใบยืนยันนัดสัมภาษณ์ 

  2. ใบยืนยันแบบฟอร์ม DS-160 

  3. หนังสือเดินทางทั้งเล่มปัจจุบัน มีอายุใช้งานคงเหลือมากกว่าระยะเวลาที่ผู้สมัครตั้งใจจะอยู่ในประเทศสหรัฐฯ อย่างน้อย 6 เดือน มีหน้าว่าง 2 หน้าขึ้นไป และขอให้ผู้สมัครนําหนังสือเดินทางเล่มเดิมทุกเล่มมาด้วย โดยเฉพาะหนังสือเดินทางเล่มเก่าที่มีวีซ่าสหรัฐฯ ที่ออกให้ภายในระยะเวลา 15 ปีที่ผ่านมา  

  4. บัตรประชาชนตัวจริง สำหรับแลกบัตรเพื่อฝากโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง 

  5. รูปถ่ายสำหรับทำวีซ่า 1 ใบ ขนาด 5 ซ.ม. x 5 ซ.ม. หรือ 2 x 2 นิ้ว พื้นหลังสีขาว ไม่มีขอบ ถ่ายหน้าเต็ม เห็นใบหูทั้งสองข้าง ขนาด ใบหน้าต้องมากกว่าร้อยละ 50 ของรูป เห็นหัวไหล่เล็กน้อย

  • ต้องถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือน 

  • ไม่ถูกปรับแต่งทางดิจิทัล 

  • ขนาดของไฟล์ JPG จะต้องไม่เกิน 240 KB 

  • ต้องอยู่ในรูปแบบ เป็น File JPG ขนาด 600 x 600 pixel หรือ1200 x 1200 pixel

 

หมายเหตุ :

แม้ว่ารูปถ่ายดิจิทัลควรจะถูกอัพโหลดลงบนแบบฟอร์มโดยตรง และจะปรากฏอยู่ที่หน้ายืนยันของแบบฟอร์ม DS-160 แล้ว แต่ในวันสัมภาษณ์วีซ่า อาจเกิดปัญหาเรื่องรูปถ่ายไม่มีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์ที่กําหนด และผู้สมัครอาจต้องยื่นรูปถ่ายรูปจริง หน้าตรง โปรดอย่าติดกาวหรือเย็บรูปถ่ายกับลวดเย็บกระดาษลงบนช่องที่กําหนดให้บนแบบฟอร์ม ด้านในสถานทูตฯ มีบริการถ่ายรูปด่วน

ข้อควรระวัง :

อย่าแสดงเอกสารปลอม การหลอกลวงหรือการกรอกข้อมูลที่ไม่เป็นความจริงอาจทำให้ผู้สมัครเสียสิทธิ์ในการร้องขอวีซ่าอย่างถาวร หากผู้สมัครมีความกังวลเรื่องความลับของข้อมูล ผู้สมัครควรนำเอกสารต่างๆ ใส่ซองปิดผนึกมายังสถานทูตหรือสถานกงสุลอเมริกาด้วยตนเอง สถานทูตหรือสถานกงสุลอเมริกาจะไม่เปิดเผยข้อมูลดังกล่าวต่อผู้ใด และจะเคารพข้อมูลที่เป็นความลับของผู้สมัคร ผู้สมัครควรนำเอกสารต่อไปนี้มาในวันสัมภาษณ์ ควรนำเอกสารตัวจริงมาแทนสำเนา อย่าส่งโทรสาร อีเมล หรือส่งเอกสารประกอบของผู้สมัครไปยังสถานทูตหรือสถานกงสุลอเมริกาทางไปรษณีย์

 

ข้อมูลเท็จ เช่น

  • แผนการท่องเที่ยวเท็จ

  • ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับ ญาติ คนรู้จัก แฟน ที่อาศัยอยู่สหรัฐอเมริกา

  • มีนายจ้างรอรับเข้าทำงาน 

  • แผนการเดินทางที่ไม่เป็นความจริง เช่นระบุว่าต้องการไปท่องเที่ยวเมืองนิวยอร์ค แต่เจตนาต้องการไปเมืองอื่น แม้ว่าจะได้รับอนุมัติวีซ่า แต่อาจมีผลในการตรวจคนเข้าเมืองที่สนามบิน 

  • ระยะเวลาในการเข้าประเทศสหรัฐอเมริกา เช่นระบุว่าต้องการไปเที่ยว 15 วัน ได้รับอนุมัติวีซ่า 10 ปี (multiple entry visa, valid 10 years) เมื่อเดินทางเข้าประเทศสหรัฐอเมริกา ได้รับอนุมัติให้เข้าประเทศ 6 เดือน เมื่อผู้สมัครอยู่จนครบ 6 เดือน จึงเดินทางออกนอกประเทศเป็นระยะเวลาสั้นๆ และกลับเข้าไปประเทศหสรัฐอเมริกาทันทีจะมีผลให้ถูกปฎิเสธการเข้าประเทศได้เช่นกัน เนื่องจากข้อมูลไม่ตรงกับที่แจ้งเมื่อขอวีซ่าว่าต้องการไปเที่ยวเพียง 15 วัน

  • ประวัติการเดินทางต่างประเทศ 5 ปีที่ผ่านมา 

 

ข้อควรทราบ :

 

วีซ่าไม่ได้เป็นการรับประกันว่าสามารถเดินทางเข้าประเทศสหรัฐฯได้ แต่เป็นการเปิดโอกาสให้บุคคลต่างชาติเดินทางมายังด่านตรวจคนเข้าเมืองประเทศสหรัฐฯ และขออนุญาตเข้าประเทศ โดยมีเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรแห่งสหรัฐอเมริกา จากกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐฯ (CBP) มีอำนาจที่จะอนุญาตหรือปฏิเสธไม่ให้เดินทางเข้าประเทศสหรัฐฯ ตลอดจนพิจารณาว่าผู้เดินทางจะสามารถอยู่ในประเทศสหรัฐฯได้นานเพียงใด 

Traveling

เอกสารพิ่มเติมในการยื่นคำร้องขอวีซ่า

 

  • หลักฐานที่จะอยู่ในสหรัฐอเมริกาเป็นการชั่วคราวตามที่ระบุไว้ 

    • เช่น แผนการท่องเที่ยว ใบจองตั๋วเครื่องบินไป-กลับ ใบจองที่พัก สัญญาเช่ารถ ประกันการเดินทาง ใบลงทะเบียนเรียนระยะสั้น อย่างไรก็ตาม สถานทูตฯ จะไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายใดใด อันเกิดจาการการชำระเงินจากการจองตั๋วเครื่องบินหรือที่พักหากวีซ่าไม่ได้รับการอนุมัติ ดังนั้นโปรดหลีกเลี่ยงการวางแผนการเดินทางที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้จนกว่าจะได้รับวีซ่าในหนังสือเดินทางของตนเอง

 

  • หลักฐานการเงินเพียงพอสำหรับการใช้จ่ายระหว่างอยู่ในสหรัฐอเมริกา

    • เช่น สมุดบัญชีเงินฝากประจำหรือบัญชีออมทรัพย์จากทางธนาคาร ย้อนหลัง 6 เดือน (โดยอัพเดทการเงินเดือนปัจจุบันด้วย) ควรเลือกเล่มที่มีการเข้าออกของเงินสม่ำเสมอ และมีจำนวนไม่ต่ำกว่า 6 หลัก เพื่อแสดงให้เห็นว่ามีฐานะการเงินเพียงพอที่จะครอบคลุมกับค่าใช้จ่ายได้อย่างไม่เดือดร้อนเมื่อกลับสู่ภูมิลำเนา ใช้เงินฝากหลายบัญชีได้

    • กรณีใช้เอกสารการเงินของผู้อื่น แนะนำให้เป็นบุคคลที่สามารถแสดงความสัมพันธ์เชื่อถือได้ว่า มีเหตุผลที่หนักแน่น น่าเชื่อถือเพียงพอในที่จะรับผิดชอบค่าเดินทางทั้งหมดให้กับผู้สมัคร เช่น ผู้ปกครอง สามี ภรรยา ควรมีจดหมาย sponsor letter จากเจ้าของบัญชี หรือเป็นจดหมายที่ออกจากธนาคาร และหลักฐานแสดงความสัมพันธ์ เช่น บัตรประชาชนและทะเบียนบ้าน ทะเบียนสมรส สูติบัตร เป็นต้น 

 

  • มีที่อยู่อาศัยนอกสหรัฐอเมริกาและมีความผูกพันทางสังคม หรือความมั่นคงทางการเงินและเศรษฐกิจในด้านอื่นๆ ที่จะทำให้แน่ใจว่าผู้สมัครจะเดินทางกลับประเทศเมื่อการเยี่ยมเยียนสิ้นสุดลง ซึ่งอาจเป็นทรัพย์สินอื่นๆ ที่ไม่ได้อยู่ในรูปเงินสดในบัญชีออมทรัพย์ เช่น สลากออมสิน พันธบัตรรัฐบาล ทะเบียนการค้า โฉนดที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ที่ปลอดจำนอง บัญชีกองทุน บัญชีลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ จดหมายรับรองงานหรือทะเบียนการค้าเพื่อแสดงความมั่นคงด้านอาชีพชีพเป็นต้น 

 

  • ประวัติอาชญากรรมหรือการดำเนินคดีในศาลเกี่ยวกับการถูกจับกุมหรือถูกตัดสินโทษในทุกที่ แม้ว่าผู้สมัครจะได้ชดใช้ความผิดนั้นแล้วหรือได้รับอภัยโทษในภายหลังก็ตาม

 

  • เอกสารที่ยืนยัน วัตถุประสงค์ของการเดินทางไปยังสหรัฐอเมริกานั้นเป็นการเยี่ยมเยียนชั่วคราวเช่น เพื่อธุรกิจ การพักผ่อน หรือการรักษาด้านการแพทย์ เช่น

    • เดินทางไปเยี่ยมญาติ

      • นำสำเนาหลักฐานสถานภาพของญาติที่อยู่ในประเทศสหรัฐฯ (เช่น กรีนการ์ด ใบรับรองสัญชาติ วีซ่าที่ยังไม่หมดอายุ เป็นต้น)

    • ผู้เคยเยี่ยมเยียนสหรัฐอเมริกา

      • หากผู้สมัครเคยเดินทางไปสหรัฐอเมริกามาก่อน ให้นำเอกสารยืนยันการเดินทางเข้าประเทศและสถานะวีซ่ามาประกอบ

  • ผู้ที่ต้องการเข้ารับการรรักษาพยาบาล

    • ผู้สมัครควรเตรียมเอกสารรายงานการวินิจฉัยจากแพทย์ในประเทศของผู้สมัครที่อธิบายถึงลักษณะของอาการป่วยและเหตุผลที่ผู้สมัครต้องการเข้ารับการรักษาในสหรัฐอเมริกา, หนังสือจากแพทย์หรือสถานพยาบาลในสหรัฐอเมริกาแจ้งความยินยอมที่จะรักษาอาการป่วยดังกล่าว รวมทั้งรายละเอียดเรื่องระยะเวลาและค่าใช้จ่ายในการรักษา (รวมทั้งค่าบริการของแพทย์ โรงพยาบาล และค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลอื่นๆทั้งหมด), หนังสือแจ้งความรับผิดชอบด้านการเงินจากบุคคลหนึ่งหรือองค์กรที่ออกค่าเดินทาง ค่ารักษาพยาบาล และค่าพักอาศัยของผู้สมัคร บุคคลที่รับรองการชำระเงินค่าใช้จ่ายดังกล่าวจะต้องแสดงหลักฐานว่ามีกำลังทรัพย์พอที่จะให้การสนับสนุนโดยมักจะอยู่ในรูปแบบของใบแจ้งยอดบัญชีจากธนาคาร เอกสารแสดงรายรับ/เงินออม หรือสำเนาการยื่นภาษีเงินได้

 

เอกสารเกี่ยวกับอาชีพของผู้สมัคร

  • นักเรียน

นำผลการเรียนล่าสุด ใบรับรองผลการศึกษา ใบรับรองสถานภาพการเป็นนักศึกษา ใบเสร็จค่าเล่าเรียนที่ชำระล่วงหน้า กรณีเพิ่งจบการศึกษาให้นำใบรับปริญญาหรือใบประกาศนียบัตรมาด้วย 

  • ผู้บรรลุนิติภาวะที่ทำงานแล้ว

นำหนังสือว่าจ้างจากผู้ว่าจ้างและสลิปเงินเดือน 3 เดือนที่ผ่านมา บัตรพนักงานหรือบัตรเจ้าหน้าที่ราชการ จดหมายอนุญาตให้ลางาน เอกสารเกษียณอายุ หลักฐานแสดงรายได้ การชำระภาษี สินทรัพย์ หนังสือจากผู้ว่าจ้างแสดงรายละเอียดตำแหน่ง เงินเดือน ระยะเวลาการว่าจ้าง และการอนุมัติวันหยุดหรือวัตถุประสงค์ทางธุรกิจในการเดินทางไปสหรัฐอเมริกา

  • นักธุรกิจและผู้อำนวยการบริษัท

นำหลักฐานแสดงการดำรงตำแหน่งในบริษัทและเงินตอบแทน หนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัท หจก ทะเบียนพาณิชย์ เอกสารครอบครองทรัพย์สินหรือธุรกิจ หรือสินทรัพย์

Interview

วันนัดสัมภาษณ์วีซ่า

  • ผู้สมัครกรุณามาถึงสถานทูตอเมริกา 15 นาทีก่อนเวลาที่ได้นัดไว้  หากล่าช้าเกินกว่าเวลานัด จะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาในสถานทูตฯ และจําเป็นต้องนัดวันเวลาสัมภาษณ์ใหม่

  • นอกเหนือจากแบบฟอร์มการสมัครวีซ่าที่กําหนดแล้ว โปรดนําเอกสารสนับสนุนอื่นๆ ที่ผู้สมัครคิดว่าจะช่วยในการสมัครวีซ่าของผู้สมัครมา

  •  บุคคลากรสถานทูตฯ จะแจ้งให้ผู้สมัครไปที่หน้าต่างสัมภาษณ์ที่ผู้สมัครควรยื่นเอกสารการสมัคร 

  • พิมพ์ลายนิ้วมือเป็นแบบอิเล็กทรอนิกส์ที่หน้าต่างสัมภาษณ์ 

  • ในเวลาสัมภาษณ์ โปรดเตรียมแสดงหลักฐานความผูกพันกับถิ่นที่อยู่นอกสหรัฐฯ อย่างต่อเนื่องของผู้สมัคร 

  • ไม่สามารถเลือกสัมภาษณ์เป็นภาษาไทย หรือภาษาอังกฤษได้ แนะนำให้ผู้สมัครทราบรายละเอียดที่กรอกในใบสมัคร DS-160 วัตถุประสงค์และรายละเอียดการเดินทางทั้งหมด หากผู้สมัครมีประวัติที่ควรจะสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดี เช่นเคยจบการศึกษาจากต่างประเทศ หรือเป็นตัวแทนบริษัทเพื่อเจรจาต่อสัญญาทางธุรกิจ อย่างไรก็ดีเจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่สามารถสื่อสารภาษาไทย ผู้สมัครสามารถขอตอบคำถามเป็นภาษาไทยได้ 

  • การรอนัดสัมภาษณ์วีซ่า และกระบวนการออกวีซ่าอาจใช้เวลานาน โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ผู้คนนิยมเดินทางโดยเฉพาะ

  •  กฎหมายว่าด้วยการเข้าเมืองสหรัฐฯ บัญญัติว่าบุคคลต่างด้าวทุกคนจะได้รับการสันนิษฐานว่ามีเจตนาจะอยู่ในอยู่ในสหรัฐฯ ถาวร ขณะรับการสัมภาษณ์วีซ่าประเภทชั่วคราว (NIV) และต่อเจ้าหน้าตรวจคนเข้าเมืองจนกระทั่งบุคคลดังกล่าวจะสามารถแสดงให้เจ้าหน้าที่กงสุลเห็นจนเป็นที่พอใจว่าตนไม่มีความตั้งใจจะเดินทางไปอยู่ในสหรัฐฯ เป็นการถาวร 

  • หน้าที่ในการพิสูจน์ดังกล่าวเป็นของผู้สมัครวีซ่า หากผู้สมัครไม่สามารถพิสูจน์ได้จนเป็นที่พอใจของเจ้าหน้าที่กงสุลตามกฎหมายแล้วถือว่าบุคคลต่างด้าวดังกล่าวเป็นผู้สมัครต้องการอยู่ในสหรัฐฯ เป็นการถาวร และไม่ควรได้รับวีซ่าประเภท ชั่วคราว (NIV) ผู้สมัครสามารถพยายามหักล้างข้อสันนิษฐานดังกล่าวโดยการแสดงหลักฐานความผูกพันทางครอบครัว ทางเศรษฐกิจ และทางสังคมอื่นๆ ที่มีต่อประเทศนอกสหรัฐฯ ไม่มีญาติ นายจ้าง หรือเพื่อนของผู้สมัครที่สามารถ “รับประกัน” ว่าผู้สมัครจะเดินทางกลับจากสหรัฐฯ แทนที่หลักฐานที่กล่าวมาได้ และไม่คํานึงว่าผู้ใดเป็นผู้สนับสนุนการเดินทาง การนําเสนอข้อมูลที่เป็นเท็จอาจทําให้ผู้สมัครไม่ได้รับวีซ่าเข้าสหรัฐฯ ตลอดชีวิต 

 

หมายเหตุ:

ผู้สมัครวีซ่าจะได้รับอนุญาตให้เข้ามาในบริเวณสถานทูตฯ ในขณะสัมภาษณ์เท่านั้น ผู้สมัครแต่ละคนจะต้องแสดงเอกสารของตนเอง ดังนั้นควรเตรียมตัวสัมภาษณ์ วัตถุประสงค์การขอวีซ่าได้เอง โดยไม่มีสมาชิกในครอบครัวคนอื่นๆ หรือตัวแทนทางกฎหมายอยู่ด้วย ยกเว้นผู้สมัครวีซ่าที่อายุต่ำกว่า 13 ปี

American Flag

คำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับใบสมัครวีซ่า DS-160

  • หมายเลขบาร์โค้ดบนแบบฟอร์ม DS-160 ที่ผู้สมัครวีซ่าชั่วคราวนำมาในวันสัมภาษณ์ จะต้องเป็นเลขเดียวกันกับที่ใช้จองนัดสัมภาษณ์วีซ่า หากไม่ตรงกัน ผู้สมัครจะต้องจองนัดสัมภาษณ์ใหม่

  • หากท่านได้ทำการจองนัดสัมภาษณ์โดยใช้หมายเลขบาร์โค้ดที่ใช้งานไม่ได้ หรือใช้ในการสัมภาษณ์วีซ่าครั้งก่อน ท่านต้องทำการอัพเดทหมายเลขบาร์โค้ดนี้ในโปรไฟล์ออนไลน์ของท่านอย่างน้อย 3 วันทำการล่วงหน้าก่อนวันนัดหมายสัมภาษณ์วีซ่าของท่าน มิฉะนั้นท่านจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ารับการสัมภาษณ์วีซ่า และจะต้องทำการจองนัดสัมภาษณ์ใหม่โดยใช้หมายเลขบาร์โค้ดอันใหม่

การเดินทางมาสถานทูตอเมริกา กรุงเทพฯ ประเทศไทย

ที่อยู่ : 95 ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330 ประเทศไทย

การเดินทาง :

  • BTS ลงสถานีเพลินจิต ทางออกอาคาร Park Ventures หรือ MRT ลงสถานีลุมพินี 

  • รถยนต์ส่วนตัว ไม่แนะนำ เพราะที่สถานทูตฯ ไม่มีที่จอดรถ แต่สามารถนำรถไปจอดแบบเสียค่าใช้จ่ายได้ที่ 1. อาคาร GPF 2. ตึกสินธร 3. ออล ซีซันส์เพลส (ที่จอดรถจำกัด)

สถานกงสุลใหญ่สหรัฐฯ เชียงใหม่ ประเทศไทย

ที่อยู่ : 387 ถนน วิชยานนท์ ตำบล ช้างม่อย อำเภอเมืองเชียงใหม่ เชียงใหม่ 50300

ขอบเขตการบริการ: ขอบเขตการดูแลของสถานกงสุลใหญ่ในเชียงใหม่ครอบคลุม 15 จังหวัด อันได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย กำแพงเพชร ลำปาง ลำพูน แม่ฮ่องสอน น่าน เพชรบูรณ์ พะเยา พิจิตร พิษณุโลก แพร่ สุโขทัย ตาก และอุตรดิตถ์

CLICK FOR EXPAND

bottom of page