top of page

วีซ่านักเรียนออสเตรเลีย Student VISA, AUSTRALIA

การเตรียมหลักฐานเพื่อยื่นขอวีซ่านักเรียนประเทศออสเตรเลีย

AdWise Education Admin

Update : August 2023

Laptop Writing

ข้อมูลที่ควรทราบ

  • สามารถยื่นวีซ่าล่วงหน้าก่อนเปิดเรียนนานแค่ไหนก็ได้ แต่การยื่นล่วงหน้านานมากเกินไปทางเจ้าหน้าที่อาจพิจารณาว่าเป็นเคสไม่เร่งด่วน ทาง Adwise แนะนำให้ยื่นวีซ่าล่วงหน้า 4 เดือน ก่อนวันกำหนดเปิดเรียน

  • ระยะเวลายื่นวีซ่า

    • สถิติระยะเวลารอผลวีซ่านักเรียนจากทั่วโลก เฉลี่ยประมาณ 24 - 46 วัน

    • ส่วนของประเทศไทยมีความแตกต่างกันไปในแต่ละช่วงเวลา ไม่สามารถระบุเวลาแน่นอนล่วงหน้าได้

    • วีซ่านักเรียนออสเตรเลียยื่นผ่านระบบออนไลน์ทั้งหมด และไม่มีระบบคิวจึงไม่สามารถกำหนดเวลาแน่นอนว่าจะได้รับผลวีซ่าภายในกี่วัน และระยะเวลาพิจารณาวีซ่าในแต่ละช่วงมีระยะเวลารอคอยไม่เท่ากัน

  • เมื่อวีซ่าผ่านแล้ว สามารถเดินทางได้เลย แต่ยังไม่สามารถทำงาน Part-Time ได้จนกว่าจะเปิดเรียนวันแรก จำนวนชั่วโมงที่สามารถทำงาน Part-Time ได้คือ 48 ชั่วโมง/ 2 สัปดาห์ (นับจากวันจันทร์ ถึงคืนวันอาทิตย์) และสามารถทำงานได้เต็มเวลาในช่วงปิดภาคเรียนตามเงื่อนไขที่กำหนด ยกเว้นเงื่อนไขการทำงานพิเศษในบางสาขาอาชีพ หรือวีซ่าผู้ติดตามนักเรียนที่เรียนระดับปริญญาโทขึ้นไป

    • ข้อจำกัดในการทำงานสำหรับผู้ถือวีซ่านักเรียน
      ​​ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2023 ผู้ถือวีซ่านักเรียนจะถูกจำกัดการทำงานไว้ที่ 48 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
      (Temporary relaxation of working hours for student visa holders)

    • ​นักเรียนสามารถติดต่อพี่ AdWise เพื่ออัพเดทข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องได้ตลอดเวลาค่ะ

ขั้นตอนการสมัครเรียนและยื่นวีซ่าออสเตรเลีย :

1. เลือกคอร์สเรียน - ตามเป้าหมายของน้องๆ โดยพี่ๆ AdWise จะให้คำแนะนำ และข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจสมัครเรียน
แนะนำให้เตรียมเรซูเม่ ประวัติส่วนการเรียน การฝึกอบรม เรียนพิเศษ การทำงาน หลักสูตรที่สนใจ งบประมาณ ผลสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ และเป้าหมายหรือวัตถุประสงค์ที่ต้องการเรียนต่อให้พร้อม เพื่อทำ study plan + course and visa application timeline + Budget ให้อย่างเหมาะสม 

   

2. สมัครเรียน เพื่อขอใบตอบรับ


   เอกสารที่ใช้สมัครเรียนมีดังนี้

  • สำเนา Passport

  • สำเนา Transcript การศึกษาระดับสูงสุด เป็นภาษาอังกฤษ

  • สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล (ถ้ามี)

  • จดหมายรับรองงาน เป็นภาษาอังกฤษ (ถ้าเรียนจบแล้วต้องมี)

  • Resume เป็นภาษาอังกฤษ

  • ข้อมูลที่อยู่ปัจจุบัน, เบอร์ติดต่อ, email

  • ข้อมูลผู้ติดต่อฉุกเฉิน (ชื่อ-นามสกุล, ระบุความสัมพันธ์, เบอร์ติดต่อ, email) 

   การส่งเอกสาร

  • สแกนไฟล์ใส่ share drive แล้วแชร์ลิ้งค์ หรือ ส่งไฟล์สแกนเอกสาร และส่งอีเมล study@adwise-education.com; adwise1.edu@gmail.com

  • ใส่ subject e-mail ด้วย "เอกสารสมัครเรียน - ชื่อจริง - ชื่อเล่น"

 

ตัวอย่าง


Subject: เอกสารสมัครเรียน - ดาริน จอย

 

หมายเหตุ : มหาวิทยาลัยบางแห่ง อาจมีข้อกำหนดเฉพาะ เช่น 

  • นักเรียนต้องจ่ายค่าสมัครเรียนก่อน และไม่สามารถขอคืนเงินได้ (Non Refund)

  • ต้องสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ

  • สอบสัมภาษณ์ ยื่นจดหมายชี้แจงวัตถุประสงค์เข้าเรียน (Statement of Purpose Letter) 

  • Resume

  • เอกสารการเงิน

 

3. เตรียมเอกสารอื่น ๆ / ส่งแปล (เอกสารที่เป็นภาษาไทยต้องแปลเป็นอังกฤษทุกฉบับ)

4. รอใบตอบรับจากโรงเรียน (Letter Offer / Letter of Acceptance) ใช้เวลาดำเนินการ 2 – 10 วันทำการ เมื่อได้รับใบตอบรับจากโรงเรียนแล้วจึงเตรียมเอกสารสำหรับยื่นวีซ่าอื่นๆ

5. เตรียมเอกสารวีซ่าที่เหลือให้ครบถ้วน

6. ชำระค่าเรียน ค่าประกันสุขภาพ และค่าธรรมเนียมต่างๆ (ทาง AdWise จะสรุปยอดให้อีกครั้งก่อนชำระเงิน) ทางเราบริการฟรี ไม่มีชาร์จค่าดำเนินการเพิ่มเติมค่ะ

7. รอรับใบเสร็จเพื่อยื่นวีซ่าจากโรงเรียน (Confirmation of Enrolment: COE) (ใช้เวลาดำเนินการ 2-10 วันทำการ)

8. ยื่นวีซ่า Online (ทาง AdWise จะดำเนินการยื่นวีซ่า Online แทนให้) 

9. ตรวจสุขภาพ – สามารถตรวจสุขภาพก่อนยื่นวีซ่าได้ ทาง AdWise จะกรอกข้อมูลเข้าระบบเพื่อขอใบส่งตัวให้ หรือยื่นวีซ่าก่อนแล้วจะได้ใบส่งตัวอัตโนมัติ HAP Letter ต้องไปตรวจภายใน 28 วันนับตั้งแต่ได้ใบส่งตัว ส่วนใหญ่ต้องทำการนัดหมายกับโรงพยาบาลล่วงหน้า

  • ต้องแจ้ง ถ้าเคยเดินทางไปออสเตรเลีย ไม่ว่าจะด้วยวีซ่าใดๆ เพราะต้องกรอกข้อมูลในใบส่งตัวเพื่อตรวจสุขภาพเพื่อทำใบส่งตัว

  • อาจมีข้อยกเว้นกรณีที่ไม่ต้องตรวจสุขภาพ เช่น เคยได้รับการตรวจสุขภาพสำหรับยื่นวีซ่านักเรียนประเทศออสเตรเลียมาแล้วไม่เกิน 1 ปี, ลงทะเบียนเรียนเพื่อขอวีซ่านักเรียนระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือน, หรือประกาศยกเว้นการตรวจสุขภาพชั่วคราว กรณีนักเรียนต่อวีซ่าภายในประเทศออสเตรเลีย

10. รอรับใบส่งตัวสำหรับไปทำ Bio-metrics ที่ศูนย์ยื่นวีซ่าออสเตรเลีย VFS (ถ่ายรูปและสแกนลายนิ้วมือ) โดยนักเรียนต้องไปด้วยตนเอง ภายใน 14 วันนับจากยื่นวีซ่า โดยต้องทำนัดล่วงหน้า ซึ่งทาง AdWise เป็นผู้ดำเนินการนัดหมายให้ ค่าใช้จ่ายในการยื่นเอกสารประมาณ 800บาท นักเรียนชำระเป็นเงินสดด้วยตัวเองที่ศูนย์ยื่นวีซ่าฯ

  • ระหว่างรอวีซ่า สถานทูตอาจโทรหาเพื่อสัมภาษณ์ หรือขอเอกสารข้อมูลเพิ่มเติม หรือเช็คเอกสารการเงิน ติดต่อที่ทำงานของนักเรียนเพื่อสอบถามข้อมูล (case by case) เป็นต้น

 11. รอผลวีซ่า เมื่อได้รับวีซ่าแล้ว จึงสามารถเริ่มเตรียมตัวเดินทาง / ตั๋วเครื่องบิน / จัดหาที่พัก

 

ข้อมูลเพิ่มเติม : ทั้งนี้หากเจ้าหน้าที่พิจารณาปฏิเสธวีซ่าก่อนที่ผู้สมัครไปตรวจสุขภาพ หรือก่อนทำ Bio-metrics ก็สามารถทำได้ แต่จะไม่สามารถอนุมัติวีซ่าให้ผ่านได้ถ้าผู้สมัครยังไม่ดำเนินการตรวจสุขภาพ และทำ Bio-metrics ให้ครบถ้วน

เอกสารของนักเรียน (อายุเกิน 18 ปีบริบูรณ์) :

เอกสารของทางราชการที่ต้องแปลเป็นภาษาอังกฤษ เช่น ทะเบียนบ้าน ใบเปลี่ยนชื่อนามสกุล ทะเบียนสมรส ทะเบียนหย่า ใบเกิด ใบมรณะ สามารถขอคัดสำเนาฉบับภาษาอังกฤษได้ที่สำนักงานเขตหรือที่ว่าการอำเภอทุกแห่ง 

เอกสารที่สามารถขอฉบับภาษาอังกฤษได้จากอำเภอ ข่าวดีบอกต่อ รับรองเอกสารการทะเบียน 27 ประเภท ไม่ต้องเสียเวลาแปลเอกสารก่อนอีกต่อไป - กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ (mfa.go.th)

1. สำเนา Passport **ต้องมีอายุเหลือเกิน 6 เดือนนับจากวันที่จะเดินทางเข้าประเทศออสเตรเลีย  

2. ที่อยู่ปัจจุบัน, e-mail, เบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อได้ 

3. สำเนา Passport เล่มเก่า (ถ้ามี) 

  • ประวัติการเดินทางต่างประเทศ ย้อนหลัง 10 ปี (ประเทศที่ไป, วัน-เดือน-ปีเดินทางไปและกลับ, วัตถุประสงค์ที่ไป) 

  •  สำเนา Passport ทุกหน้าที่มีวีซ่าต่างประเทศ และตราประทับเข้าออกนอกประเทศ 1 ชุด กรณีเคยขอวีซ่าไปออสเตรเลียทุกประเภทต้องแจ้งด้วย

4. สำเนาบัตรประชาชน

5. สำเนาทะเบียนบ้าน (ภาษาไทย และภาษาอังกฤษ) 

6. หนังสือรับรองการทำงาน (หรือ สลิปเงินเดือน / ใบเสียภาษี / ทะเบียนการค้า เป็นต้น) ทุกอย่างเป็นภาษาอังกฤษ

  • ต้องแจ้งประวัติการทำงานย้อนหลัง อย่างน้อย 5 ปี

  • ชื่อบริษัท หรือ องค์กรที่ทำ

  • อธิบาย ประเภทธุรกิจของบริษัทว่าทำเกี่ยวกับอะไร

  • ที่อยู่ เบอร์โทร บริษัท

  • ชื่อและนามสกุล หัวหน้างานหรือบุคคลอ้างอิงในบริษัท

  • วัน-เดือน-ปี ที่เริ่มงาน และวัน-เดือน-ปี ที่สิ้นสุดงาน

  • ตำแหน่งงานที่ทำ

  • อธิบายงานที่ทำโดยย่อ

7. ประวัติการศึกษา Transcript ผลการเรียน ใบประกาศนียบัตรวุฒิการศึกษาสูงสุดที่จบ

  • ถ้าเรียนหลักสูตรต่อเนื่อง ปวส ต่อ ปริญญาตรี ต้องยื่นผลการเรียน ปวส ด้วย (เป็นภาษาอังกฤษ) 

  • ใบประกาศนียบัตร + หลักสูตรเรียนพิเศษ ฝึกอบรมเพิ่มเติมทั้งหมด (ถ้ามี) เช่น เรียนพิเศษภาษาอังกฤษ คอร์สฝึกอบรมต่าง ๆ

8. สำหรับผู้ชาย ต้องมีเอกสารเกณฑ์ทหาร สำเนา สด. 43 หรือ 8

9. หลักฐานการเปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนนามสกุล (ถ้ามี ภาษาไทย และภาษาอังกฤษ)

10. หลักฐานสถานะทางครอบครัว (ถ้ามี) ทะเบียนสมรส ทะเบียนหย่า สูติบัตรบุตร เอกสารของสามีหรือภรรยาที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส 

11. หากเคยเดินทางไปออสเตรเลีย ต้องแจ้งรายละเอียด เช่น ช่วงที่เดินทาง วีซ่า หลักฐานการเรียนที่ออสเตรเลีย

12. จดหมายแนะนำตัว GTE Letter ภาษาอังกฤษ จดหมายนี้สำคัญมาก เพื่อชี้แจงวัตถุประสงค์ในการขอวีซ่าไปเรียนครั้งนี้ ทำไมเลือกเรียนคอร์สนี้ สถาบันนี้ เมืองนี้ ทำไมไม่เรียนที่ไทย เป้าหมายหลังเรียนจบ เพื่อประกอบการพิจารณา

13. ชื่อ-นามสกุล / วัน เดือน ปีเกิด / ประเทศที่พักอาศัยปัจจุบัน – ของสมาชิกครอบครัว พ่อ แม่ พี่ น้อง ทุกคน (เป็นภาษาอังกฤษ) 

14. ชื่อ-นามสกุล / วัน เดือน ปีเกิด / ประเทศที่พักอาศัยปัจจุบัน (กรณีมีประวัติ มีคู่สมรส) ของคู่สมรส และลูก

15. ชื่อ-นามสกุล ผู้สนับสนุนการเงินในการไปศึกษาต่อ (สปอนเซอร์) / จำนวนเงินที่มี / ระบุชื่อธนาคารที่ฝากเงิน

16. Resume

17. กรณีมีงานรองรับหลังเรียนจบ ขอหลักฐานดังนี้

  • ใบตอบรับเข้างาน หรือรายละเอียดหลักฐาน

  • ชื่อบริษัท หรือ องค์กรที่ทำ เป็นภาษาอังกฤษ

  • อธิบาย ประเภทธุรกิจของบริษัท ว่าทำเกี่ยวกับอะไร

  • ที่อยู่ เบอร์โทร บริษัท 

  • ชื่อ และนามสกุล หัวหน้างาน หรือบุคคลอ้างอิงในบริษัท

  • วันเดือนปี ที่เริ่มงาน

  • ตำแหน่งงานที่ทำ (ภาษาอังกฤษ) 

  • อธิบายงานที่จะต้องทำโดยย่อ 

18. เอกสารการเงิน 

Credit Card
เอกสารการเงิน

เอกสารการเงิน – วีซ่านักเรียน

ผู้สมัครวีซ่านักเรียนที่สมัครเรียนในสถาบันหรือโรงเรียนที่ต้องยื่นเอกสารการเงิน หรือกรณีที่สถานทูตเรียกดูเอกสารการเงิน
 

ควรเตรียมเอกสารดังนี้  
 

หลักฐานการเงิน มี 2 ประเภท (ยื่นอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือยินดีจะยื่นทั้ง 2 แบบก็ได้) ดังนี้

  1. หลักฐานการเงินเพียงพอค่าใช้จ่ายล่วงหน้า 1 ปีแรก (หรือน้อยกว่านั้น ตามระยะเวลาที่ขอวีซ่า ทั้งนี้ วีซ่าจะนานครอบคลุมระยะเวลาของหลักสูตรที่ลงทะเบียนเรียนทั้งหมด) เป็นค่ากินอยู่ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ค่าเล่าเรียนที่ค้างชำระ ค่าเรียนของผู้ติดตามที่อายุ 5 – 17 ปี

  2. หลักฐานว่าผู้ปกครอง หรือสามีหรือภรรยาของผู้สมัครวีซ่านักเรียน มีรายได้ต่อปีไม่ต่ำกว่า AUD 62,222  ถ้ามีสมาชิกครอบครัวสมัครวีซ่าติดตามไปด้วย ยอดรายได้ต้องเป็น AUD 72,592 ต่อปี  (รายได้ของตนเอง หรือคู่สมรส หรือผู้ปกครอง หรือรวมกันหลายบัญชี หลายคน) หลักฐานต้องมีความน่าเชื่อถือ เช่นหลักฐานการเสียภาษีตามกฎหมาย (สมุดบัญชีธนาคาร หรือ Statement จากธนาคารที่มียอดเงินเดือนหรือรายได้อื่น ๆ เข้าทุกเดือน ไม่สามารถใช้ยื่นเป็นหลักฐานได้)

  3. เอกสารรับรองการเงินอื่นๆ เช่น an Acceptance Advice of Secondary Exchange Students form for secondary exchange students only, หรือ a letter of support from Department of Foreign Affairs and Trade or Department of Defence.

 

ต้องมีเงินเท่าไหร่ สำหรับค่าครองชีพในออสเตรเลีย 1 ปี 

ต้องมีเงินสำหรับ  

   
1. ค่าครองชีพตามระยะเวลาที่ขอวีซ่า ถ้าวีซ่ามากกว่า 1 ปีคำนวณที่ 1 ปี ถ้าระยะเวลาที่ขอวีซ่าน้อยกว่า 1 ปีให้คำนวณตามอัตราค่าครองชีพต่อ 1 ปี หารด้วย 365 วัน และคำนวณตามระยะเวลาที่ขอวีซ่าจริง 
- กรณีลงเรียน น้อยกว่า 10 เดือน วีซ่าจะบวก 1 เดือนหลังจากเรียนจบ
- กรณีลงเรียน 10 เดือนขึ้นไป วีซ่าจะบวก 2 เดือนหลังจากเรียนจบ
- กรณีลงเรียน 10 เดือนขึ้นไป และวันที่เรียนจบอยู่ในเดือน พ.ย. หรือ ธ.ค. วีซ่าจะบวกไปถึง 15 มี.ค. ปีถัดไป 
2. ค่าเดินทาง AUD $1,000 – $3,000 ขึ้นอยู่กับประเทศต้นทาง ตัวอย่างประเทศไทย คิดค่าใช้จ่าย AUD $2,000 
3. ค่าเรียนที่ยังค้างชำระของการเรียนปีแรก

ค่าครองชีพในออสเตรเลีย 1 ปี  (Update: 7 August 2023 by DHA Australia) 

 

  • สำหรับวีซ่านักเรียน (ผู้สมัครหลัก)       = AUD 21,041 ต่อปี

  • สำหรับคู่สมรส (วีซ่าติดตาม)               = AUD 7,362 ต่อปี

  • สำหรับบุตร 1 คน (วีซ่าติดตาม)           = AUD 3,152 ต่อปี

    • เพิ่มเติม บุตรที่มีอายุระหว่าง 5 – 17 ปี ต้องเตรียมค่าใช้จ่ายสำหรับค่าเล่าเรียนในโรงเรียน อย่างน้อย AUD 8,296 ต่อปี (ยกเว้น ผู้สมัครหลักเรียนหลักสูตรปริญญาเอก บุตรจะได้รับการยกเว้นค่าเล่าเรียน) 

 

เอกสารการเงิน ต้องมียอดเงินเพียงพอ เป็นการเงินที่มีสภาพคล่อง ผันแปรเป็นเงินสดได้ทันที และเบิกถอนได้จริง
Sufficient + Liquidation + Accessible หลักฐานที่แสดงว่าผู้สมัครวีซ่าและสมาชิกครอบครัวที่ยื่นวีซ่าติดตาม (ถ้ามี) สามารถเข้าถึงเงินทุนก้อนนั้นได้จริงในขณะที่อาศัยอยู่ออสเตรเลีย เช่น ความน่าเชื่อถือของเจ้าของเงิน อาจเป็นพ่อแม่ หรือญาติสนิทจะมีความน่าเชื่อถือว่า ถ้าเป็นแค่คนรู้จัก เจ้าหน้าที่อาจมองว่าไม่มีเหตุผลน่าเชื่อถือมากพอที่จะคนรู้จักจะยินดีให้ทุนการศึกษาและค่าใช้จ่ายให้ผู้สมัคร 

กรณีผู้สมัครยื่นวีซ่ารอบ 2 ต่อวีซ่าที่ออสเตรเลีย ควรแสดงหลักฐานว่านักเรียนสามารถเข้าถึงเงินบัญชีนั้น เช่น มีการโอนเงิน หรือใช้เงินจากสปอนเซอร์จริงๆ ในการเรียนหลักสูตรก่อนหน้านี้ที่ออสเตรเลีย ยกตัวอย่าง สปอนเซอร์ เป็นคุณอา ใช้ใบฝากเงินเข้าบัญชีนักเรียนที่เมืองไทย นักเรียนใช้บัตรเดบิตถอนเงินสดใช้ที่ออสเตรเลีย ก็แนบใบฝากเงิน สำเนาสมุดบัญชีหรือ Statement นักเรียน สำเนาบัตรเดบิต สลิปที่กดเงินใช้ เป็นหลักฐาน เป็นต้น

 

เอกสารทางการเงินที่ใช้ยื่นวีซ่า

 

  • บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ - Statement บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ย้อนหลัง 6 เดือน สามารถยื่นได้ทั้งเงินฝากออมทรัพย์บัญชีธนาคารพาณิชย์ และสหกรณ์ที่ได้รับการรับรองของหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ

    • ยอดเงินคงเหลือที่ต้องโชว์ใน Statement ต่างกันตามระยะเวลาวีซ่า เช่น ผู้สมัครวีซ่านักเรียน 1 คน ยื่นขอวีซ่าประมาณ 7 เดือน  พิจารณาดังนี้ ค่าครองชีพ สำหรับ 7 เดือน ประมาณ  (21,041 ต่อปี เฉลี่ย $1754 ต่อเดือน)  ค่า $12,278 ค่าเรียนทั้งหมด $7,000 (ชำระค่าเรียนก่อนยื่นวีซ่าแล้ว $3,500 คงเหลือที่ต้องชำระเพิ่ม $3,500) ค่าเดินทางไปกลับออสเตรเลีย ประมาณ $2,000 

      • ดังนั้น ผู้สมัครควรต้องมีเอกสารการเงินขั้นต่ำ ประมาณ 432,000 บาท คำนวณจากค่าใช้จ่ายข้างต้น สมมติอัตราแลกเปลี่ยน AUD $1 = 25 บาท จากรายละเอียดดังนี้

      • ค่าครองชีพ 7 เดือน $12,278 + ค่าเรียนที่ยังค้างชำระ $3,500 + ค่าเดินทาง $2,000 = $17,778 x rate 25 = 444,450 บาท

      • ยอดเงินอาจมีการปรับเปลี่ยนตามมาตรฐานค่าครองชีพที่กำหนดในแต่ละปี และผันแปรตามอัตราแลกเปลี่ยน

      • กรณีลงเรียนมากกว่า 1 ปี คำนวณยอดเงิน Statement จากค่าครองชีพล่วงหน้า 1 ปีเท่านั้น

    • เงินในบัญชีสามารถเคลื่อนไหว ฝากเพิ่ม ถอนใช้จ่ายได้ แต่ยอดเงินคงเหลือเฉลี่ยย้อนหลัง 6 เดือน ควรใกล้เคียงกับยอดเงินสุดท้ายที่ต้องใช้โชว์มากที่สุด (เคสที่มีปัญหา เช่น ยอดเงินคงเหลือก่อนยื่นวีซ่า 8 แสน แต่ตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา มีเงินก้อนฝากเข้า แล้วถอนหมดบัญชี เหลือหมื่นบาท ยอดเงินเคลื่อนไหวมาก ขึ้น ๆ ลง ๆ ต่างกันมาก อาจมีปัญหา คือ ฝากเข้า ถอนออกได้ แต่ต้องดูว่ามีความมั่นคงทางการเงิน บางเคสโดนปฏิเสธวีซ่า ทั้งที่ยอดเงินโชว์ 1 ล้านบาท แต่ในรอบ 6 เดือนก่อน เคยมีการถอนเงินหมดบัญชีหลายครั้ง)

    • ตรงหัวจดหมาย Statement ข้อมูลเจ้าของบัญชีด้านบน บางธนาคารจะแจ้งเป็นภาษาไทย ตามฐานข้อมูลที่เปิดบัญชี  เพราะเป็นแบบฟอร์ม ซึ่งบางธนาคารแก้ไขไม่ได้

    • กรณีมีเงินก้อนใหญ่ ฝากเข้ามาก่อนยื่นวีซ่าไม่นาน (sudden fund) ซึ่งเป็นยอดที่ผิดปกติจากการฝากเข้า-ถอนออกโดยปกติของบัญชีนั้น ๆ ต้องชี้แจงที่มาของเงินก้อนนั้น เพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่มองว่าเป็นการตกแต่งบัญชี กู้ยืมเงินมา เช่น กรณีขายที่ดิน ต้องแนบสัญญาซื้อขายที่ดินที่กรมที่ดิน ใบเสียภาษี สำเนาโฉนดทุกหน้า / ได้รับค่าจ้างจากการทำงาน ค่านายหน้า ต้องแสดงหนังสือหักภาษี ณ ที่จ่าย / กรณี ขายรถยนต์ จะใช้เอกสารซื้อขายโอนลอยที่เต็นท์รถออกให้ไม่ได้ ต้องแนบสมุดทะเบียนรถที่เคยมีชื่อเราเป็นเจ้าของ และโอนให้เจ้าของใหม่ พร้อมสัญญาซื้อขาย / กรณีขายทองรูปพรรณ ใช้ใบเสร็จจากร้านทองไม่ได้ / กรณีขายหุ้น หรือกองทุน ต้องใช้หลักฐานการขาย / เงินโบนัส ต้องแนบ สลิปเงินเดือน / หรือกรณีโอนเงินจากบัญชีอื่นๆ ต้องแนบหลักฐานด้วย

    • กรณีทำอาชีพที่มีรายรับเป็นรายปี เช่นทำการเกษตร เก็บเกี่ยวผลผลิตปีละครั้ง แนะนำว่าให้ขอเอกสารการเงิน Statement ย้อนหลัง 1 ปีหรือนานกว่านั้น เพื่อชี้แจงว่ารายรับที่เข้ามาเป็นรายรับจากการทำงานปกติ ไม่ใช่เป็นเงินก้อนที่ฝากเข้ามาไม่นาน (sudden fund) ที่ใช้ตกแต่งบัญชีเพื่อขอวีซ่าจะทำให้เอกสารน่าเชื่อถือมากขึ้น

  • สลากออมสิน / สลาก ธกส ที่ซื้อมามานานกว่า 6 เดือน สามารถใช้ยื่นเป็นเอกสารการเงินได้ โดยต้องไปจดหมายรับรองจากทางธนาคารฉบับภาษาอังกฤษ กับสำเนาสลาก (สลากหลายใบ รวมยอดเงินกันได้)

  • บัญชีกระแสรายวัน (จะไม่มีสมุดบัญชี) ต้องขอ Statement จากทางธนาคาร และต้องขอหนังสือรับรองเพื่อชี้แจงยอดเงินคงเหลือว่ามีวงเงินที่ยังใช้ได้ OD จำนวนเท่าไหร่

  • บัญชีฝากประจำ สามารถใช้ได้ แต่เนื่องจากไม่มีการเคลื่อนไหว ธนาคารจึงไม่มี Statement ให้ ให้ถ่ายสำเนาสมุดบัญชีทุกหน้า พร้อมขอหนังสือรับรองฐานะทางการเงินจากธนาคาร (ต้องเป็นบัญชีฝากประจำที่เปิดมานานมากว่า 6 เดือน กรณีเพิ่งเปิดบัญชีไม่นาน เพราะย้ายมาจากฝากประจำเล่มอื่น ให้แนบสำเนาหน้าสมุดบัญชีกับรายการเดินบัญชีเล่มเก่าคู่กัน เพื่อชี้แจงที่มาการเงิน)

  • ​หลักฐานเงินกู้จากหน่วยงานของรัฐบาล หรือสถาบันการเงินที่ถูกต้องตามกฎหมาย วัตถุประสงค์เพื่อการศึกษา

 

การขอหนังสือรับรองฐานะทางการเงิน / แบงค์การันตี / หนังสือรับรองบัญชี

  • ต้องแจ้งวัตถุประสงค์เพื่อการขอวีซ่าออสเตรเลีย / ระบุจำนวนเงินชัดเจนเป็นสกุลเงินออสเตรเลีย  Australian Dollar (ธนาคารบางแห่งเช่น SCB จะระบุแค่ มีเงิน 7 หลัก แบบนี้ใช้ไม่ได้ ต้องให้เจ้าหน้าที่พิมพ์ยอดเงินเพิ่มเติมตรง Remark)

  • หลักฐานจากธนาคาร มีอายุ 30 วัน นับจากวันที่ธนาคารออกเอกสารให้

  • สะกดชื่อ-นามสกุล ผู้สมัครให้ตรงกับหน้า Passport เท่านั้น (ควรนำสำเนา Passport นักเรียนไปธนาคารด้วย)

Mother and Daughter Hugging

เอกสารของสปอนเซอร์การเงิน

1.    หลักฐาน บัตรประชาชน หรือ Passport ของสปอนเซอร์ชื่อเจ้าของบัญชี เช่น คุณแม่เป็นสปอนเซอร์ (สมมติ คุณแม่ไม่มี Passport) ให้ใช้บัตรประชาชนเป็นหลักฐาน โดยให้ธนาคารสะกดชื่อเจ้าของบัญชี (คุณแม่) ให้ตรงกับชื่อภาษาอังกฤษในบัตรประชาชนด้วย
2.    เอกสารความสัมพันธ์ของสปอนเซอร์ และผู้สมัคร เช่น สปอนเซอร์ เป็นคุณอาผู้ชายของผู้สมัคร ใช้คนละนามสกุลได้ไม่มีปัญหา ใช้เอกสารคือทะเบียนบ้านผู้สมัคร ทะเบียนบ้านพ่อของผู้สมัคร (ในทะเบียนบ้าน จะระบุชื่อ บิดา มารดา ซึ่งก็คือ คุณปู่ คุณย่า ของผู้สมัคร) และทะเบียนบ้านคุณอา
3.    ที่มาของการเงินของสปอนเซอร์ – อาชีพ การงาน เช่น สลิปเงินเดือน จดหมายรับรองงาน บัตรข้าราชการ ใบเสียภาษี ทะเบียนการค้า ทะเบียนเกษตรกร ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ เช่น ใบอนุญาตทนาย
4.    จดหมายสปอนเซอร์ (ทาง AdWise มีแบบฟอร์มให้) + กรอกที่อยู่ เบอร์ติดต่อ และให้สปอนเซอร์เซ็น
5.    หลักฐานที่สามารถยื่นเพิ่มเติม เพื่อแสดงถึงความมั่นคงทางเศรษฐกิจการเงิน และทำให้น่าเชื่อถือว่าหลังจากเรียนจบแล้วจะกลับมายังประเทศไทย เช่น กองทุนรวม / กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ / หุ้นสหกรณ์ / หุ้นในตลาดหลักทรัพย์ / ทรัพย์สินดิจิตัล /  ที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ที่ไม่ติดจำนอง / พันธบัตรรัฐบาล / เล่มทะเบียนรถยนต์ ไม่ติดไฟแนนซ์ (ไม่นับรวมเป็นยอดเงินของเอกสารการเงินใช้แนบเพิ่มเติมเท่านั้น แต่มีประโยชน์ต่อการพิจารณาวีซ่ามาก ถือเป็นเอกสารเพิ่มเติมหัวข้อ GTE ได้) 
6.    กรณีสปอนเซอร์เป็นนายจ้าง ควรเป็นรูปแบบบริษัทฯ และมีเอกสารแนบชี้แจงขั้นตอนการให้ทุนการศึกษา สัญญาใช้ทุน เอกสารควรเป็นเอกสารที่ทางการ เช่นมีการร่างสัญญาโดยทนายอย่างชัดเจน ขั้นตอนการคัดเลือกผู้ได้รับทุน จดหมายเซ็นยินยอมจากกรรมการ หรือผู้ถือหุ้นทั้งหมด

หมายเหตุสำคัญ :

  • เอกสารทุกอย่างสามารถเซ็นรับรองสำเนาได้แต่ห้ามขีดทับเด็ดขาด

  • เอกสารที่เป็นภาษาไทยทุกอย่าง ต้องแปลเป็นภาษาอังกฤษ

  • เอกสารของทางราชการ เช่น ทะเบียนบ้าน ใบเปลี่ยนชื่อนามสกุล ทะเบียนสมรส ทะเบียนหย่า ใบเกิด ใบมรณะ สสามารถขอคัดสำเนาฉบับภาษาอังกฤษได้ที่สำนักงานเขต หรือที่ว่าการอำเภอทุกแห่ง

  • เมื่อได้รับวีซ่าแล้ว ควรตรวจสอบรายละเอียด ชื่อ นามสกุล คำนำหน้า เลขที่พาสปอร์ตทุกครั้ง

  • ถ้าสะกดไม่ตรง จะไม่สามารถเดินทางออกนอกประเทศได้

Medical Record Analysis
bottom of page