top of page
Students

ประถมศึกษา

 

การศึกษาในประเทศแคนาดามีระบบการศึกษาที่แตกต่างกันไปในแต่ละมณฑล โดยทั่วไปแล้วนักเรียนชาวแคนาดาจะเข้าโรงเรียนอนุบาลเมื่อมีอายุครบ 4 – 5 ปี และใช้เวลาเรียน 1 – 2 ปีแล้วแต่สมัครใจ เมื่อมีอายุครบ 6 ปี จะต้องเข้าเรียนชั้นเกรด 1 ซึ่งโดยปกติโรงเรียนจะเริ่มปีการศึกษา ตั้งแต่ช่วงเดือนกันยายนถึงเดือนมิถุนายน โรงเรียนมัธยมศึกษาจะมีไปจนถึงเกรด 11, 12 หรือ (OAC) ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับมณฑลนั้น ๆ เพื่อศึกษาต่อยังมหาวิทยาลัย วิทยาลัยหรือ CEGEP ของควิเบค

อุดมศึกษา

การศึกษาต่อจากระดับมัธยมศึกษา มีหลายแบบทั้งที่เป็น Community College หมายถึงสถาบันที่ทำการสอนทักษะทางวิชาชีพต่าง ๆ เช่น College of Applied Arts and Technology ซึ่งมีอยู่หลายแห่งในแคนาดา สถาบันเหล่านี้มีสาขาวิชาให้เลือกมากมายและค่าธรรมเนียมการศึกษาก็ไม่สูงจนเกินไป ระยะเวลาในการศึกษาประมาณ 3 ปี เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการจบการศึกษาเร็วหรือผู้ที่มีเวลาน้อยในการเรียน สาขาวิชาที่เปิดสอน อาทิ​ การศึกษาทางด้านศิลปะและเทคโนโลยี หลักสูตรวิชาชีพเพื่อนำไปประกอบอาชีพในด้านการค้า อุตสาหกรรมและหลักสูตรกึ่งวิชาชีพ เช่น บริหารธุรกิจ สาธารณสุขศาสตร์ ศิลปศาสตร์และสังคมศาสตร์ หลักสูตรการศึกษาสำหรับพัฒนาทักษะในการเรียน  การใช้ภาษาทั้งภาษาอังกฤษ และภาษาฝรั่งเศส เป็นต้น

โดยทั่ว ๆ ไป หลักสูตรประกาศนียบัตรและอนุปริญญาจะมีการเรียนการสอนในระดับวิทยาลัยเท่านั้น บางหลักสูตรสามารถเทียบโอนไปยังมหาวิทยาลัยบางแห่งได้ การเทียบโอนแต่ละที่จะมีระเบียบการโอนแตกต่างกันไป ดังนั้น นักศึกษาโปรดตรวจสอบไปยังมหาวิทยาลัยที่จะทำการเทียบโอนหน่วยกิตด้วยตนเอง หรือปรึกษาตัวแทนของสถาบันในประเทศ โดยต้องส่ง curriculum (หลักสูตรการศึกษา) และ Course description (รายละเอียดวิชา) ไปด้วย

Students Studying Outside

มหาวิทยาลัย (University)

หลักสูตรระดับปริญญาตรี (Bachelor’s degree) โดยปกติจะใช้เวลาในการเรียนประมาณ 3 – 5 ปี 
ในแคนาดาจะมีหลักสูตรปริญญาตรีอยู่ 2 ประเภทคือ

  • General Pass Degrees ใช้เวลาเรียน 3 ปี

  • Honors Degrees ใช้เวลาในการศึกษา 4 ปี

    • นักศึกษาจะต้องเรียนเพื่อให้มีหน่วยกิตมากกว่าหลักสูตรสอบ General Pass Degrees และจะต้องเขียนวิทยานิพนธ์ด้วย หากนักศึกษาคิดจะศึกษาต่อในระดับปริญญาโท ควรเรียนในหลักสูตรนี้​

Working Together

หลักสูตรวิชาชีพ

 

หลักสูตรวิชาชีพนี้จะใช้เวลาเรียนมากกว่าหลักสูตรอื่นเนื่องจากจะต้องมีการฝึกงาน จึงรวมเวลาการฝึกงานเข้าไปด้วย โดยการร่วมมือกันระหว่างมหาวิทยาลัยและหน่วยงานที่นักศึกษาจะไปฝึกงาน ซึ่งในปัจจุบันทางประเทศแคนาดากำลังมีความต้องการนักเรียนต่างชาติที่เข้ามาเรียนในสาขาอาชีพที่เป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานในประเทศ (ดูรายละเอียด) ซึ่งนอกจากจะสามารถหางานทำในแคนาดาหลังเรียนจบแล้วยังมีโอกาสยื่นขอวีซ่าถาวรได้อีกด้วย

Teacher with Students

หลักสูตรปริญญาโท (Master’s degree) 1 ปีครึ่ง – 2 ปี ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับสถาบันและขึ้นอยู่กับว่านักศึกษาจะต้องเรียนวิชาพื้นฐานของแต่ละหลักสูตร และต้องสอบ Comprehensive Examination (สอบประมวลความรู้) หรืออาจต้องทำวิจัย หรือเขียนรายงานวิทยานิพนธ์หรืออาจมีทั้งสองอย่าง ขึ้นอยู่กับวิชาพื้นฐานของแต่ละหลักสูตร งานวิจัยหรือวิทยานิพนธ์นี้สามารถนำไปศึกษาต่อในระดับปริญญาเอกได้ด้วย 

 

​หลักสูตรปริญญาเอก (Doctoral หรือ Ph.D. Degree) ใช้เวลาในการศึกษา อย่างน้อย 2 ปี หลังปริญญาโท หรือ 3 ปีหลังปริญญาตรี แต่อย่างไรก็ตาม นักศึกษาต้องใช้เวลาเฉลี่ยอย่างน้อย 3 ถึง 5 ปี หลังจากจบปริญญาโท หลักสูตรปริญญาเอกนี้ จะประกอบด้วยวิชาพื้นฐาน การร่วมสัมมนาทางวิชาการ การค้นคว้างานวิจัย การเขียนรายงานวิชาการ การนำเสนอ และการเขียนวิทยานิพนธ์ เป็นต้น​

 

การศึกษาภาคปฏิบัติ (Co-op Education) การศึกษาภาคปฏิบัติหรือการฝึกงานเป็นส่วนหนึ่งของระบบการศึกษา โดยสถาบันการศึกษาได้ร่วมกับสถานประกอบการทางธุรกิจต่าง ๆ เปิดโอกาสให้นักศึกษาได้ปฏิบัติงานจริง ระยะเวลาในการฝึกงานประมาณ 2 ภาคการศึกษา 

Image by Ray S

ทำไมต้องมาเรียนที่แคนาดา

 

สถาบันการศึกษาในประเทศแคนาดาเป็นที่ยอมรับในมาตรฐานการศึกษาจากทั่วโลก ทุกปีจะมีนักเรียนชาวต่างชาติเป็นจำนวนมากสมัครมาเรียนต่อที่แคนาดา การมาเรียนต่อที่ประเทศแคนาดานอกจากการศึกษาตามหลักสูตรแล้ว นักเรียนจึงมีโอกาสได้ศึกษาเรียนรู้วัฒนธรรมที่หลากหลายของเพื่อนชาวต่างชาติอีกด้วย 

  • วุฒิการศึกษาจากประเทศแคนาดาเป็นที่ยอมรับทั่วโลก นักเรียนสามารถใช้วุฒิการศึกษาที่ได้เป็นใบเบิกทางเพื่อให้ได้งานที่ตนเองมุ่งหวัง 

  • ค่าใช้จ่ายในการศึกษาและการใช้ชีวิตไม่สูงมากเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่น 

  • ชาวแคนาดาเป็นที่รู้กันดีว่ามีมนุษยสัมพันธ์ดี เปิดเผย และเป็นมิตร แต่ละปีจึงมีนักเรียนต่างชาติเข้ามาเรียนต่อต่อเป็นจำนวนมากถึง 150,000 คน จากกว่า 200 ประเทศทั่วโลก นักเรียนจึงมีโอกาสได้เรียนรู้วัฒนธรรมที่หลากหลาย 

  • คุณภาพชีวิตและความปลอดภัยดีเยี่ยม 

  • สถาบันสอนภาษาที่แคนาดามีมาตรฐานระดับโลก และนักเรียนสามารถเลือกเรียนภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาที่สามได้อีกด้วย 

  • มีกิจกรรมที่ส่งเสริมทักษะความรู้ของนักเรียนมากมาย เช่น ศูนย์กีฬามาตรฐานโอลิมปิก พิพิธภัณฑ์ หอศิลป์ ห้องแสดงผลงานศิลปะ หรือแม้แต่ในสถานศึกษาเองก็มีกิจกรรมที่น่าสนใจให้น้องๆได้มีส่วนร่วม เช่น สถานีวิทยุที่นักศึกษาจัดรายการเอง หนังสือพิมพ์ และอื่นๆอีกมากมาย 

  • โอกาสในการทำวิจัยในโครงการที่น่าสนใจ สถาบันการศึกษาในประเทศแคนาดาให้ความสำคัญกัลการทำวิจัยอย่างมาก โดยเฉพาะในระดับปริญญาขึ้นไป มีหน่วยงานทั้งจากรัฐบาล และเอกชนสนับสนุนการทำวิจัยในหลายสาขา เช่น โทรคมนาคม การแพทย์การเกษตร เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ และวิทยาการด้านสิ่งแวดล้อม  

  • ได้เรียนในสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมการแสดงออกทางความคิด การใช้ชีวิตที่แคนาดาค่อนข้างเรียบง่าย ดังนั้นน้องๆจะมีเวลาให้กับการศึกษามากขึ้น สามารถพัฒนาทักษาะความรู้ได้อย่างเต็มความสามารถ 

  • น้องที่มีเคยทำงานในประเทศแคนาดา และมีหนังสือรับรองการทำงานจากบริษัทในประเทศแคนาดา สามารถทำเรื่องขอมีที่อยู่ถาวร (Permanent Residence)ในประเทศได้โดยไม่ต้องเดินทางออกนอกประเทศ

bottom of page